ar_aiw

คลังบทความของบล็อก

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553


ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็คง "ช็อกซีเนม่า!!" ที่เกิดกระแสข่าวฉาวกระฉ่อนว่า "หนุ่มฮอต" ฟิล์ม-รัฐภูมิ

ทำนักแสดงสาวเซ็กซี่หน้าฝรั่ง อักษร "อ." ที่เคยร่วมงานในละครเรื่อง "ปีศาจแสนกล" ทางช่อง 3 "ท้องป่อง"... ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็คง "ช็อกซีเนม่า!!" ที่เกิดกระแสข่าวฉาวกระฉ่อนว่า "หนุ่มฮอต" ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องดังค่ายอาร์เอส ไปทำนักแสดงสาวเซ็กซี่หน้าฝรั่ง อักษร "อ." ที่เคยร่วมงานในละครเรื่อง "ปีศาจแสนกล" ทางช่อง 3 "ท้องป่อง" แถมลือกันให้แซดว่าข่าวหลุดมาจากเพื่อนฝ่ายหญิงว่า ตอนนี้สาวนางนั้นได้คลอดลูกชายวัย 3 เดือน มาเป็นพยานรัก โดย ก่อนหน้าที่จะถึงกำหนดคลอด มีข่าวว่าฝ่ายหญิงได้ อุ้มท้องไปบอกฟิล์มเรื่องทายาทที่จะลืมตาดูโลกในไม่ช้า โดยฟิล์มได้ให้ เงิน 2 แสนบาท พร้อมกำชับให้ปกปิดเรื่องนี้ให้ เงียบที่สุด แทนการรับผิดชอบ จนลือกันอีกระลอกว่าแม่ของฟิล์มไม่พอใจที่ลูกชายมีข่าวทำผู้หญิงท้อง จึงโทร.ไปต่อว่าฝ่ายหญิงอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากมีข่าวว่าฝ่ายหญิงได้คลอดลูก และได้ลูกชาย หน้า ตาน่ารักน่าชัง แต่ฟิล์มก็ไม่ไปสนใจถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเลย ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจขู่ว่าถ้าไม่รับผิดชอบ ฝ่ายหญิงก็กล้าท้าตรวจดีเอ็นเอ และเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอีกอย่างหนึ่งว่า ตั้งแต่มีข่าวออกมา นักแสดงสาวเซ็กซี่ท่านนี้ก็หายเงียบไปจากวงการ ส่วนฟิล์มติดต่อไปก็อ้างว่าติดงาน โทร.ถามทางพี่ชาย ของฟิล์ม ก็บอกเพียงว่า "อ๋อ...ได้ยินข่าวแล้ว"...เลยเกิดกระแสวิจารณ์ว่าที่ฟิล์มหายเงียบอยู่นี้ เพราะถอยไปตั้งหลัก และกำลังหาทางออกกับเรื่องนี้อยู่ เหมือนกัน.


'แอนนี่ บรู๊ค' อุ้มลูก เปิดใจ ยัน ไม่ตรวจ DNA

แอนนี่ บรู๊ค อุ้มลูก ออกสื่อ ยันยังไงก็ไม่ตรวจ DNA พร้อมจะเลี้ยงลูกเอง และขอโทษที่ทำให้ ฟิล์ม เสียชื่อเสียง

หลังจากที่ แอนนี่ บรู๊ค ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการดัง ช่อง 3 เช้าวานนี้ 17 ก.ย. ในรายละเอียดเบื้องต้น และล่าสุด ในช่วงเย็นวันเดียวกัน แอนนี่ บรู๊ค ก็ได้อุ้มลูกชายวัยน่ารัก มาด้วย พร้อมเปิดใจอีกครั้ง ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ว่า

''จริงไม้ได้ต้องการจะทำร้าย ฟิล์ม หรืออะไรเลย แต่เป็นเพราะถูกดันจากกระแสทางสังคม เลยต้องออกมาชี้แจง ข้อเท็จจริงต่างๆ และก็จะขอยืนยันคำเดิมว่า จะไม่ตรวจ DNA เด็ดขาด เพราะก่อนหน้านี้ เคยคุยกันแล้วแต่ ฟิล์ม ปฏิเสธกลับมา และตลอดเวลาที่ตั้งท้อง แอนนี่ ต้องเก็บตัวเงียบ อยู่คนเดียวที่บ้าน เกือบปี จนกกระทั่งตอนคลอด ก็ต้องขับรถเองเพื่อไปโรงพยาบาล ส่วนเรื่องที่ ฟิล์ม บอกว่า ให้เงิน ก้อนแรกใช้ 2 แสนบาท ให้จริงนะค่ะ แต่ไม่ถึง และที่บอกไปเยื่ยมที่โรงพยาบาลวันคลอดนั้น ก็ไม่เป็นความจริง แต่ไปเยี่ยมที่บ้าน หลังคลอด 1 อาทิตย์''

''เรื่องคนรับรองบุตร แอนนี่ ขอไม่พูดแล้วกันค่ะ กลัวจะส่งผลกระทบต่อลูกในอนาคต แล้วก็จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง และแอนนี่ก็ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ทั้งสิ้น จาก ฟิล์ม เลยด้วยค่ะ'' แอนนนี่ กล่าวทั้งท้าย สั้นๆ

20 ก.ย.2549 เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ


ความเป็นมา สืบเนื่องมาจากคำประกาศขององค์การสหประชาชาติ กำหนดให้ปีพุทธศักราช 2528 เป็นปีเยาวชนสากล และขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากลภายใต้คำขวัญ “Participation Development and Peace”สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ โดยถือว่าเป็นวันที่เป็นสิริมงคลอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ จึงถือได้ว่าเป็นวันสิริมงคลที่เยวชนควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เยาวชนึงควรกระตือรือล้นในการพัฒนาตนเองและประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคมและประเทศชาติเฉกเช่นยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ เรามีวันเด็กแห่งชาติโดยถือวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปีแต่ที่มุ่งเป็นเยาวชนโดยเริ่มในปีเยาวชนสากลนั้น เนื่องจากความหมายสากลของเยาวชน หมายถึงคนในวัยหนุ่มสาว คือ ผู้มีอายุระหว่าง ๑๕ - ๒๕ ปี ในขณะที่เด็กมักจะหมายถึงผู้มีอายุต่ำกว่า ๑๔ ปี ในประเทศไทยจากการสำรวจมีเยาวชนจำนวนถึง ๑๑ ล้านคนเศษ และจำนวนนี้จะเพิ่มมากขึ้นในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๖และต่อเนื่องไปถึงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๗ คาดว่าจะมีจำนวนกว่า ๑๓ ล้านคน ในช่วงเวลานี้ จากนั้นจำนวนจะค่อยๆ ลดลง นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นต้นไป เยาวชนของชาติจะได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชน และพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งกว่านั้นเยาวชนจำนวน ๑๑ ล้านคนซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ควรได้ตระหนักว่าเยาวชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาชาติให้มีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ซึ่งเยาวชนสามารถกระทำได้โดยการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีค่านิยมที่ถูกต้อง อาทิ นิยมใช้สินค้าไทยภูมิใจและหวงแหนปรารถนาที่จะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย รู้จักประหยัดและมีวินัย รวมทั้ง พร้อมที่จะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชาติ ตลอดจนยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่การพัฒนาไปตามลำพังนั้นเป็นการพัฒนาเพียงส่วนเดียวย่อมได้ประโยชน์ไม่สมบูรณ์ด้วยเหตุนี้เยาวชนทุกคนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมในทุกรูปแบบด้วยจึงจะสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่ ส่วนสำคัญมากอีกส่วนหนึ่งในการพัฒนาเยาวชน คือ ภาคเอกชน ธุรกิจเอกชน ควรได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเยาวชนของชาติให้มากยิ่งขึ้น การให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการพัฒนาเยาวชนไปฝ่ายเดียวคงไม่สามารถพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้ที่มีคุณภาพและคุณธรรมได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้หากธุรกิจเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเยาวชน ในด้านการฝึกอาชีพต่าง ๆ ซึ่งธุรกิจเอกชนนั้นดำเนินการอยู่ ก็จะสามารถช่วยให้เยาวชนมีความสามารถในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น มีงานทำและมีรายได้อย่างไรก็ตาม อีกสถาบนหนึ่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน ได้แก่ สถาบันครอบครัว ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองมีความเข้าใจเอาใจใส่ทะนุถนอมให้ความรักและความอบอุ่นแก่เยาวชนที่อยู่ในความปกครองอย่างถูกต้องแล้วก็จะสามารถช่วยให้เยาวชนเป็นบุคคลที่มีคุณภาพและคุณธรรมได้อย่างแน่นอน

ระแวดระวังภัยจากอินเตอร์เน็ต



ข่าวคราวเกี่ยวกับภัยจาก อินเตอร์เน็ตปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ โดยมากมักเกี่ยวกับการล่อลวงหลัง จากติดต่อกันทางโปรแกรมแชตต่างๆ แต่ภัยรูปแบบอื่นก็ยังมีอีกมาก ดังนั้น การรู้เท่าทันสื่อชนิดนี้จึงเป็นหนทางเดียวที่ผู้ปกครองจะช่วยปกป้องเยาวชน จากพิษภัยต่างๆได้

จากปัญหาข้างต้นจึงมีความพยายามจัด ทำ “คู่มืออินเตอร์เน็ตปลอดภัย” โดยเป็นความพยายามของโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อการเสริมสร้างสุขภาวะ และสถาบันทีอาร์เอ็น ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ด้วยความสนับสนุนของสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เนื้อหาของคู่มืออินเตอร์เน็ต ปลอดภัย เหมาะกับผู้ปกครองที่ยังไม่เชี่ยวชาญการใช้อินเตอร์เน็ตมากนัก แต่ก็พอรู้อยู่บ้าง โดยแบ่งหมวดหมู่ ตั้งแต่เรื่องที่ว่า อินเตอร์เน็ตคืออะไร ศัพท์เน็ตต้องรู้ ภัยออนไลน์ หลักการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัย คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองที่ช่วยแนะวิธีรับมือกับเด็กที่ติดเน็ตติดเกม หรือกำลังจะติด

ลองมาดูกันอย่างย่นย่อว่าจะใช้ “เน็ต” อย่างปลอดภัยได้อย่างไร จะเริ่มตั้งแต่

1. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่บอกชื่อนามสกุลจริง ที่อยู่ เบอร์ โทรศัพท์
2. ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและคนในครอบครัวให้ผู้อื่น
3. ไม่ควรโอนเงินให้ใครอย่างเด็ดขาด นอกจากจะเป็นญาติสนิทที่เชื่อใจได้ จริงๆ
4. ไม่ออกไปพบเพื่อนที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ต เพื่อป้องกันการลักพาตัว หรือการกระทำมิดีมิร้ายต่างๆ
5. ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงคำโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ
6. สอนให้เด็กบอกพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าถูกกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ต (Internet Bullying) เช่น ได้รับอีเมล์หยาบคาย หรือถูกนำรูปถ่ายไปตัดต่อเข้ากับภาพโป๊แล้วส่งไปให้เพื่อนทุกคนดู