ar_aiw

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีรับมือกับคนขี้กังวล


ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนขี้กังวล คิดมากไปซะทุกเรื่อง วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีรับมือมาบอก

- ให้คิดแต่เรื่องที่ควรคิด โดยเริ่มฝึกหัดคิดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ เช่น วันเกิดเพื่อนใกล้มาถึงแล้วจะซื้ออะไรให้ดี

- เผชิญหน้ากับความกลัวที่มีอยู่ โดยการเดินเข้าไปหาเลย เพราะธรรมชาติของอาการกังวล คือ มักจะกังวลในเรื่องที่ไม่กล้าที่จะไปสะสาง

- อยู่กับปัจจุบัน ถ้าห้ามความคิดไม่ได้ ไม่กล้าเผชิญหน้า ก็อยู่กับมันไปเลย เพราะพอหนักเข้าจะทนไม่ไหวเลิกคิดไปเอง

- คิดบวก คนที่ขี้กังวลส่วนใหญ่เป็นเพราะมองโลกในแง่ร้าย คิดว่าอะไรๆจะเป็นไปในทางตรงกันข้ามเสมอ ดังนั้น ควรเอาสถานการณ์ดีๆที่เคยเกิดขึ้นกลับมาเป็นตัวอย่าง

เพียงเท่านี้ก็ทำให้หายจากการเป็นคนขี้กังวลได้แล้ว.


สะพานหักชาวบ้านตกน้ำหวิดดับ

สะพานหักชาวบ้านตกน้ำหวิดดับ




ชาวบ้าน อ.ร้องกวาง กว่า 10 คน ถูกน้ำพัดหายไกลกว่า 1 กิโลเมตร หลังสะพานหัก โชคดีช่วยไว้ทัน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08. 00 น. วันที่ 29 ส.ค. ชาวบ้านกว่า10 คนได้ไปยืนอยู่บนสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ 3 ต. น้ำเลา อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ซึ่งเป็นสะพานสำหรับคนเดินข้ามไปยังไร่นา เพื่อดูน้ำสถานการณ์น้ำท่วม แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อสะพานหักทำให้ชาวบ้านลอยไปสายน้ำ ซึ่งทุกคนสามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาได้ ยกเว้นนางนัยนา นาพรม 53 ปี ที่ถูกกระแสน้ำลอยหายไปกลางสายน้ำ ชาวบ้านต้องระดมกันออกค้นหาและพบตัวอยู่ริมตลิ่งในสภาพอิดโรย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร จึงรีบพาตัวมาปฐมพยาบาล

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทันข่าว




การประกวด มิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 2010 หรือนางงามจักรวาล ปี 2010 ซึ่งจัดกันที่ มันดาเลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ กาสิโน ลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม ตามเวลาในประเทศไทย หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 23 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถ่ายทอดสดโดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยปรากฎว่า Jimena Navarrete สาวงามจากประเทศเม็กซิโก สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สประจำปีนี้ไปครองได้สำเร็จ

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อ่านคลายเคลียด


ดั่งนางฟ้าท่านลงมาจากสวรรค์
ดั่งดวงจันทร์ช่างสง่ากว่าใครสิ้น
ดั่งหงส์ฟ้าที่มายังพื้นดิน
อุ้ย จบสิ้นพี่แต่งให้ แต่ใยผิดคน



ให้กำลังใจ

ทนต่อไป...อีกนิด จะได้ไหม
ต่อให้วันนี้...มันเหนื่อยล้า
ถึงจะเดินไม่ไหว...ก็อย่าพ่ายแพ้..
...หรือเสียน้ำตา...
โปรดคิดไว้เสมอว่า..ยังมีใครอีกคน..
...ที่อยู่เคียงข้างเรา...
......สู้ๆๆ ค่ะ
.....

^_^

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นี่ก็ใกล้ถึงวันวิทยาศาสตร์...จากเด็กวิท..

รัฐบาลไทยกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติเนื่องจากวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินชลมารคและสถลมารค ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรงสัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 โดยจะเห็นหมดดวงที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงเกาะจานขึ้นไปถึงปราณบุรี และลงไปถึง จ.ชุมพร จึงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ มีคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ผลการคำนวณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแม่นยำมาก เซอร์แฮรี ออด บันทึกเหตุการณ์ไว้ซึ่งต่อมาหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้แปลเป็นภาษาไทยในงานหว้ากอรำลึก ณ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ เมื่อพ.ศ. 2518 ว่า "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระสำราญมาก เพราะการคำนวณเวลาสุริยุปราคาของพระองค์ ได้พิสูจน์แล้วว่าถูกถ้วนที่สุด ถูกถ้วนยิ่งกว่าที่ชาวยุโรปได้คำนวณไว้"สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์ มีแนวคิดว่าน่าจะถือเอาวันที่ 18 สิงหาคมเป็นวันวิทยาศาสตร์ไทย ต่อมาวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2525 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2511 หลายหน่วยงาน เช่น สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ กรมอุทกศาสตร์ กรมชลประทาน กรมแผนที่ทหาร กรมอุตุนิยมวิทยา กรมไปรษณีย์โทรเลข ฯลฯ ได้ร่วมกันจัดงานขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้

5 วิธีที่นิยมใช้ป้องกันตัวเอง จากฟิชชิ่ง

5 วิธีที่นิยมใช้ป้องกันตัวเอง จากฟิชชิ่ง และข้อความอี-เมลหลอกลวง

อินเตอร์เน็ต

ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ประกาศแจ้งเตือนอี-เมลหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าไมโครซอฟท์จะมอบเงินแก่ผู้ที่ ส่งอี-เมลจากไมโครซอฟท์ต่อให้เพื่อน เนื้อหาว่า
"บริษัท ไมโครซอฟท์ ทำการสำรวจการตลาดผู้ที่ใช้ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตของไมโครซอฟท์ โดยแจกเงินให้กับผู้ส่งอี-เมลต่อไปให้เพื่อน" อย่างแพร่หลายต่อๆ กันไป

ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ได้รับ อี-เมล ซึ่งไมโครซอฟต์ไม่มีนโยบายในการสำรวจข้อมูลหรือมอบเงินในลักษณะดังกล่าว แก่ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์โซลูชั่นหรือโปรแกรมใดๆ หากผู้ใดได้รับอี-เมลนี้อย่าหลงเชื่อ หรือส่งต่อให้เพื่อนโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงหรือเสี่ยงต่อระบบรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ คำเตือนในการระมัดระวังฟิชชิ่ง และข้อความอี-เมลหลอกลวงพึงปฏิบัติเบื้องต้น

ควรระมัดระวังอี-เมลที่ถามข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ที่ถามชื่อ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม ชื่อผู้ใช้-รหัสผ่านอี-เมล หรือข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่นใดๆ ให้ถือเป็นการหลอกลวงเกือบทั้งสิ้น ไม่ว่าอี-เมลนั้นจะส่งมาจากผู้ใดก็ตาม

หากมีเหตุผลใดๆ ที่เชื่อได้ว่าอี-เมลดังกล่าวอาจถูกต้องตามกฎหมาย โปรดอย่าตอบกลับอี-เมลนั้น หรือคลิกไฮเปอร์ลิงค์ใดๆ แต่ให้ใช้การคัดลอกและวาง URL ของเว็บหรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทเพื่อสอบถามข้อมูลแทน โดยเราควรติดต่อผ่านช่องทางการสนับสนุนของบริษัทเพื่อยืนยันความถูกต้องตามกฎหมาย

ควรอ่านอี-เมลที่น่าสงสัยอย่างละเอียด อี-เมลที่ใช้คำไม่ถูกต้อง มีการพิมพ์ผิด หรือมีประโยค เช่น "นี่ไม่ใช่เรื่องตลก" หรือ "โปรดส่งต่อข้อความนี้ไปให้เพื่อนของคุณ" โดยทั่วไปจะถือว่าเป็นอี-เมลหลอกลวง บางครั้งชื่อบริษัทหรือแบรนด์อาจสะกดผิดหรือไม่ถูกต้อง เช่น ใช้คำว่า Windows Hotmail (แทนการใช้ Windows Live Hotmail)

ควรเก็บรักษารหัสอี-เมลให้ดี กำหนดรหัสผ่านที่ไม่สามารถเดาได้ ใช้อักขระมากกว่า 7 ตัว และมีการใช้อักขระตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษ เช่น สัญลักษณ์ @ หรือ # ผสมกัน และควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บทความที่ 9

ของฝากจากลูกๆๆๆ..อ่านเเล้วคิดตามนะ


"วันเกิดเราเป็นดั่งวันสิ้นลมแม่
เจ็บปวดแท้ดั่งน้ำตาพาจะไหล
สองมือออบโอบอุ้มแกว่งเปล
น้ำนมเลี้ยงอุ้มชูให้เติบใหญ่มา
แม่เปรียบดั่งยารักษายามป่วยไข้
แม่เปรียบดั่งต้นไม้ใหญ่ร่มใบหนา
แม่เปรียบดั่งดวงตะวันส่องแสงมา
แม่เปรียบดั่งผ้าห่มหนาอบอุ่นกาย
เปรียบดั่งพระในบ้านชี้แนะลูก
สถิตย์ถูกอยู่กลางใจไม่ไปไหน
กตัญญูตอนนี้ยังไม่สายไป
ก่อนแม่ไซร้หลับตาไปไม่ลืมเอย"

"แม่คือพรหม ประเสริฐ สุดของลูก
ความพันผูก แม่ลูก มากหนักหนา
จะเลี้ยงดู เมื่อแม่ แก่ชรา
ตราบชีวา ของแม่ จะสิ้นลม"

ใกล้จะถึงวันเเม่เเล้วได้อะไร...............ให้เเม่บ้าง

อยากฝากเพื่อนๆๆ พี่ทุกคนกลับบ้านหาเเม่บ้างนะ

บทความที่8



ภาพเหล่านี้...ทำให้อารมณ์ดี...
ขำๆ คลายเคลียดคริๆๆ
คุณคิดว่าไงคะ...^_^


บทความที่ 7


วิธีคลายเครียดตามเดือนเกิด


มกราคม

คนเกิดเดือนมกราคมเป็นคนที่เห็นทุกสิ่งในชีวิตเป็นเรื่องจริงจัง เพราะชอบสะสมความเครียดมากไปหน่อย เอาเป็นว่า...
เจียดเวลารีแลกซ์ด้วย การเล่นโยคะดูบ้าง หรือถ้าไม่ว่างจริง ๆ การอาบน้ำด้วยครีมสมุนไพรก็พอจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย
ได้ เหมือนกัน

กุมภาพันธ์

คนเกิดเดือนกุมภาพันธ์เป็นคนที่เครียดได้ง่ายมาก ๆ ถึงคุณจะไม่โวยวายแต่ก็เก็บความโกรธไว้ การผ่อนคลายที่เหมาะ
กับคุณคือ การได้อยู่คนเดียวเงียบ ๆ หรือทำกิจกรรมส่วนตัว หรือไม่ก็เล่นอินเทอร์เน็ตท่องโลกกว้าง

มีนาคม

คนเกิดเดือนมีนาคมเป็นคนที่อ่อนไหวและชอบยกหัวใจให้อยู่ในกำมือของคนอื่น การคาดหวังมากเกินไปอาจทำให้เสียจิต
คิดแล้วก็เครียด การผ่อนคลายของคุณอาจจะเป็นการเล่นดนตรี หรือไม่ก็วาดภาพ แต่ถ้ามีเวลาสั้น ๆ ก็แค่เอาตัวลงไปจุ่มในน้ำ
แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว

เมษายน

คนเกิดเดือนเมษายนเป็นคนที่มีสมาธิในการทำงานมาก จนบางครั้งลืมขยับเขยื้อนร่างกาย ทำให้อาการเมื่อยเข้าครอบงำ
วิธีผ่อน คลายของคุณคือ การได้ออกแรงมาก ๆ กับกีฬาผาดโผน หรือไปเล่นเครื่องเล่นเสี่ยงตายในสวนสนุก มันจะทำให้สมอง
คุณโล่งขึ้น

พฤษภาคม

คนเกิดเดือนพฤษภาคมเป็นคนที่มีสารเครียดอยู่ในร่างกายพอสมควร รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง หัวใจที่เพิ่มไม่ได้ทำให้
คุณเป็นคนหลายใจ แต่ทำให้คุณเข้ากับคนอื่นได้มากขึ้น วิธีผ่อนคลายของคุณคือ การได้เดินดูของสวย ๆ งาม ๆ ก็ทำให้รีแลกซ์
แล้วล่ะ

มิถุนายน

คนเกิดเดือนมิถุนายนเป็นคนชอบพบปะผู้คน ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกเครียดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร meeting กับเพื่อนน่าจะเป็น
วิธีผ่อนคลายที่คุณได้ดีที่สุด หรือไม่ก็ออกไปช้อปปิ้งเสียบ้าง

กรกฎาคม

สิ่งที่ทำให้คนเกิดเดือนกรกฎาคมเครียดสุดก็คือเรื่องการเดินทาง หรือต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เพราะคุณเป็นคน
เหนื่อยง่าย แถมถ้าเหนื่อยใจยิ่งแย่ใหญ่ การผ่อนคลายของคุณน่าจะเป็นการได้เล่นกับสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ หรือไม่ก็หลับยาว
ไปเลยก็ดีนะ

สิงหาคม

เรื่องที่ทำให้คนเกิดเดือนสิงหาคมเครียดมากที่สุดก็คือ ความพ่ายแพ้ เพราะคุณไม่ชอบแพ้ใครแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
วิธีผ่อนคลายของเธอคือ การได้ดูหนังฟังเพลง ช้อป ดื่ม กิน เที่ยว ขออย่างเดียวต้องดูดีมีระดับ แค่นั้นก็ทำให้คุณหายเครียด
ได้เยอะเลย

กันยายน

การได้นอนเกลือกกลิ้งอยู่กับคนรักถือเป็นการผ่อนคลายที่มีความสุขของคน เกิดเดือนกันยายนแล้วล่ะ

ตุลาคม

คนเกิดเดือนตุลาคมชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย สิ่งที่ทำให้คุณเครียดได้ ก็คือความเหงา แต่ได้แค่วุ่นวายกับเสื้อผ้า
แต่งหน้า ทำผม แบบโน้นแบบนี้ ก็เป็นการผ่อนคลายสำหรับคุณแล้ว

พฤศจิกายน

คนเกิดเดือนพฤศจิกายนเป็นคนที่เกิดอาการเครียดได้บ่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความรัก การผ่อนคลายของคุณ
น่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิยายรักกุ๊กกิ๊ก ก็ช่วยคุณได้เหมือนกันนะ

ธันวาคม

สิ่งที่ทำให้คนเกิดเดือนธันวาคมเครียดก็คือการที่ต้องทนอยู่กันอะไรนาน ๆ เพราะคุณเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ออกแนวไฮเปอร์
หน่อย ๆ การผ่อนคลายของคุณคือการได้ไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ ไม่งั้นก็อ่านหนังสือแบบไม่จำกัดแนว ก็ช่วยให้สมองเธอโปร่งได้นะ

บทความที่ 6

อาการของคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส สปายแวร์

  • มีหน้าต่างโปรแกรมเปิดอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร
  • คอมพิวเตอร์ทำงานช้าผิดปกติ
  • การทำงานโปรแกรมต่างๆ ผิดเพี้ยนไปจากปกติ
  • มีความผิดพลาดของ Windows บ่อยๆ มาก
  • เครื่อง Restart Windows ตลอดเวลา

ถ้าคอมพิวเตอร์คุณมีอาการเหล่านี้ สันนิฐานได้ว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับไวรัสหรือสปายแวร์ แนะนำให้ตรวจสอบหรือสั่งสแกนไวรัสโดยด่วน ถ้าไม่มีโปรแกรม แนะนำให้เลือกจากหัวข้อด้านล่างนี้


เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยที่นำมาฝาก

บทความที่ 5

มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต

บัญญัติ 10 ประการสำหรับผู้เริ่มต้น

ถ้าศึกษาค้นคว้าในเรื่อง Netiquette บนเว็บ จะพบการอ้างอิงและกล่าวถึง The Core Rules of Netiquette จากหนังสือเรื่อง “Netiquette” เขียนโดย Virginia Shea ซึ่งเธอได้บัญญัติกฎกติกาที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพึงตระหนักและยึดเป็นแนว ปฏิบัติ 10 ข้อ ดังนี้

  • Remember the Human

กฏข้อที่ 1 เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในขณะที่เรานั่งพิมพ์ข้อความเพื่อติดต่อสื่อสารผ่านจอคอมพิวเตอร์นั้น ต้องไม่ลืมว่าปลายทางอีกด้านหนึ่งของการสื่อสารนั้นที่จริงแล้วก็คือ “มนุษย์”

  • Adhere to the same standards of behavior online that you follow in real life

กฎข้อที่ 2 เป็นหลักคิดง่าย ๆ ที่อาจจะยึดเป็นแนวปฏิบัติ หากไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร ก็ให้ยึดกติกามารยาทที่เราถือปฏิบัติในสังคมมาเป็นบรรทัดฐานของการอยู่ร่วม กันแบบออนไลน์

  • Know where you are in cyberspace

กฎข้อที่ 3 เป็นข้อแนะนำให้เราใช้งานอย่างมีสติ รู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ ณ ที่ใด เมื่อเข้าในพื้นที่ใหม่ ควรศึกษาและทำความรู้จักกับชุมชนนั้น ก่อนที่จะเข้าร่วมสนทนาหรือทำกิจกรรมใด ๆ

  • Respect other people's time and bandwidth

กฎข้อที่ 4 ให้รู้จักเคารพผู้อื่นด้วยการตระหนักในเรื่องเวลา ซึ่งจะสัมพันธ์กับขนาดช่องสัญญาณของการเข้าถึงเครือข่าย นั่นคือ ให้คำนึงถึงสาระเนื้อหาที่จะส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มสนทนาหรือการส่งอีเมล เราควรจะ “คิดสักนิดก่อน submit” ใช้เวลาตรึกตรองสักหน่อยว่า ข้อความเหล่านั้นเหมาะสมหรือมีสาระประโยชน์กับใครมากน้อยเพียงใด

  • Make yourself look good online

กฎข้อที่ 5 เป็นข้อแนะนำผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการเขียนและการใช้ภาษา เนื่องจากปัจจุบันวิธีการสื่อสารบนเน็ตใช้การเขียนและข้อความเป็นหลัก การตัดสินว่าคนที่เราติดต่อสื่อสารด้วยเป็นคนแบบใด จะอาศัยสาระเนื้อหารวมทั้งคำที่ใช้ ดังนั้น ถ้าจะให้ “ดูดี” ก็ควรใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมและตรวจสอบคำสะกดให้ถูกต้อง

  • Share expert knowledge

กฎข้อที่ 6 เป็นข้อแนะนำให้เรารู้จักใช้จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบของอินเทอร์เน็ต นั่นคือ การใช้เครือข่ายเพื่อเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยน ”ความรู้” รวมทั้งประสบการณ์กับผู้คนจำนวนมาก ๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

  • Help keep flame wars under control

กฎข้อที่ 7 เป็นข้อคิดที่ต้องการให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยควบคุมและ ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการส่งความคิดเห็นด้วยการใช้คำที่หยาบคาย เติมอารมณ์ความรู้สึกอย่างรุนแรงจนเป็นชนวนให้เกิดกรณีทะเลาะวิวาทกันใน กลุ่มสมาชิก ซึ่งรู้จักกันในกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า “flame”

  • Respect other people's privacy

กฎข้อที่ 8 เป็นคำเตือนให้เรารู้จักเคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น เช่นไม่อ่านอีเมลของผู้อื่น เป็นต้น

  • Don't abuse your power

กฎข้อที่ 9 เป็นคำเตือนสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ผู้ดูแลระบบบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมักจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่น บุคคลเหล่านี้ก็ไม่ควรใช้อำนาจหรือสิทธิ์ที่ได้รับไปในทางที่ไม่ถูกต้องและ เป็นการเอาเปรียบผู้อื่น

  • Be forgiving of other people's mistakes

กฎข้อที่ 10 เป็นคำแนะนำให้เรารู้จักให้อภัยผู้อื่น โดยเฉพาะพวก newbies ในกรณีที่พบว่าเขาทำผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม และหากมีโอกาสแนะนำคนเหล่านั้น ก็ควรจะชี้ข้อผิดพลาดและให้คำแนะนำอย่างสุภาพ โดยอาจส่งข้อความแจ้งถึงผู้นั้นโดยตรงผ่านทางอีเมล


ที่มา: http://cc.swu.ac.th/ccnews/content/e1624/e1950/e3918/e3949/index_th.html


คิดว่าไงบ้างคะ